วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

"ภาพโป้-เปลือย"ยุคไอทีหมดปัญญาตามดมกลิ่นปราบกันไม่ได้

"ภาพโป้-เปลือย"ยุคไอทีหมดปัญญาตามดมกลิ่นปราบกันไม่ได้

อยากเปรียบเทียบกันให้เห็นชัดๆ ว่า เทคโนโลยีเก่าๆ เพียงแค่การถ่ายภาพมาตีพิมพ์ หรือการถ่ายภาพวิดีโอมาเผยแพร่ ผู้รับผิดชอบยังตามกวาดล้างจับกุมกันไม่ได้ ดังนั้น เทคโนโลยีสมัยใหม่ ไปไกลเหมือนก้าวกระโดดผู้รับผิดชอบจะก้าวไปทันได้อย่างไร ..??

การทำงานของขบวนการผลิต "ภาพโป๊"ในยุคไอทีนั้น จะมีหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการกระตุ้นทางด้านการตลาดให้ผู้เสพด้วยการ โหลด "ภาพโป๊"ลงในโทรศัพท์มือถือ ด้วยการเสียเงินเพียงไม่กี่มากมายเท่าไรนัก


เมื่อบ่ายที่ผ่านมา ได้เดินไปที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางนา ต้องตะลึง ..!! เมื่อมีชายหญิงประมาณ 2-3 คน ยืนแจกหนังสือเล่มเล็กขนาดใหญ่กว่าซองบุหรี่เล็กน้อย ความหนาประมาณ 22 หน้า






ในหนังสือเล่มนี้ จะบอกรหัสรายละเอียดตั้งแต่เพลงสุดฮิต ไปจนถึงสิ่งที่ล่อแหลมต่อการทำผิดกฎหมายคงเป็นเรื่องภาพโป๊-เปลือย รวมถึงคลิปวิดีโอ พร้อมกับแจ้งเลขรหัสให้เลือกโหลดลงในโทรศัพท์มือถือ การโหลดแต่ละครั้งนั้น ทางต้นสังกัดผู้จัดทำนั้น จะมีโปรโมชั่นมากมาย เช่น การโหลดภาพโป้-เปลือย แบบเหมาจาย 100 ภาพ 40 บาท หรือการเหมาจ่าย 40 คลิปต่อ 40 บาท เป็นต้น



เชื่อหรือไม่ว่า พฤติกรรมอันล่อแหลมตรงนี้ ไม่มีตำรวจผู้รับผิดชอบ หรือตำรวจท้องที่ไปตรวจสอบผู้แจกจ่ายเหล่านี้เลย

แนวทางแก้ไขนั้น ทาง "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" คงต้องตื่นตัวกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือผู้รับผิดชอบด้านกฎหมาย ให้สนใจศึกษาอบายมุขเหล่านี้ดูบ้าง เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็นการทำลายอนาคต เป็นการมอมเมาเยาวชนอย่างชัดเจน หากไม่เร่งดำเนินการ คงต้องเดินตามหลังโจรไฮเทคอีกหลายก้าว และสุดท้ายก็จะตามโจรกันไม่ทันเหมือนเดิม

คลิปหลุด-แอบถ่าย-แชทไลน์ ภัยคุกคามเยาวชนไทย

คลิปหลุด-แอบถ่าย-แชทไลน์ ภัยคุกคามเยาวชนไทย







เริ่มต้นปี 2551 ด้วยข่าวนักเรียน ม.1 ถูกเรียงคิวข่มขืนยับจนสลบแถมถ่ายวิดีโอคลิปแบล็คเมล์ คลิปหลุดของนักเรียนอมนกเขาบนรถเมล์ ตามมาด้วยการมอมเหล้าเด็กหญิงอายุ 14 แล้วถ่ายคลิปวิดีโอคลิปแอบถ่ายส่งต่อกันในกลุ่มวัยรุ่นโดยผู้ก่อเหตุดังกล่าวเป็นชายวัย 16 ปีเท่านั้น ข่าวเด็กหญิงวัย 14 ปี ถูกชายวัยรุ่นกว่า 10 คน รุมโทรมและถ่ายคลิปไว้พร้อมทั้งขู่ห้ามแจ้งตำรวจ

จากนั้นมีข่าวว่ามีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลวงเด็กหญิงนักเรียน 3 คนขืนใจแล้วถ่ายคลิปวิดีโอไว้แบล็คเมล์ ในช่วงปลายปียิ่งมีข่าวที่เด็กตกเป็นเหยื่ออีกมากมาย เช่น เด็กหนุ่ม 6 คนรุมทึ้งเสื้อผ้าเด็กหญิง ม.2 แล้วถ่ายคลิปวิดีโอ, เด็กหญิงวัยเพียง 11 ปีถูกข่มขืนแล้วถ่ายคลิปวิดีโอ, ข่มขืนเด็ก ม.6 ถ่ายคลิปแบล็คเมล์, ม.5 ถ่ายรูปโป๊เลียนแบบดารา เป็นต้น

“แอบถ่าย” เป็นคำที่ใช้ค้นหากว่า 4 ล้านครั้งต่อเดือนในปี 2550 จากการเปิดเผยข้อมูลของทรูฮิต และมีแนวโน้มการค้นคำนี้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อรวมกับข้อมูลการสำรวจ “พฤติกรรมและผลกระทบของการใช้อินเตอร์เน็ตจากกลุ่มเยาวชน” ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักวิจัยเอแบคโพลล์

โดยพบว่าเด็กและเยาวชนกว่า 53.2% เคยดูสื่อลามกทางอินเทอร์เน็ต จากการเป็นผู้ชมสู่การเป็นนักแสดง ผู้ก่ออาชญากรรม และเหยื่อในที่สุด โดยเหยื่อที่อายุน้อยที่สุดคือ 11 ปี ซึ่งอาจจะเป็นการกระทำที่เกิดจากความคึกคะนอง การรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือการเลียนแบบพฤติกรรม

ปัจจุบันยังมีคลิปหลุดและคลิปแอบถ่ายอีกจำนวนมากที่ถูกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ต่างๆ กระทู้ในเว็บไซต์กว่า 3,000 กระทู้ที่โพสไว้ให้ดาวน์โหลด ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์กว่าแสนรายในแต่ละเดือน ผู้เสียหายบางส่วนที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอยังเป็นเด็ก บางกระทู้หากนำไฟล์ไปฝากไว้ที่เว็บไซต์ที่ให้รายได้ด้วยจำนวนการดาวน์โหลด มันจะแฝงไปด้วยเพศพาณิชย์

เนื่องจากคลิปวิดีโอที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดคือคลิปวิดีโอลามก โดยคลิปหลุดและคลิปแอบถ่ายก็จัดอยู่ในประเภทนั้นด้วย ทำให้ผู้ฝากไฟล์มีรายได้จากการนี้อยู่พอสมควรตามจำนวนการดาวน์โหลด

อีกทั้งการนำมาซึ่งข้อมูลที่ได้จากการกู้คืนข้อมูลและการแอบถ่ายเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างชัดเจนยิ่ง มีการนำมาเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ก็ยิ่งเป็นการสร้างผลกระทบต่อเหยื่อที่ร้ายแรงและไม่มีวันสิ้นสุด คลิปหลุดและคลิปแอบถ่ายจึงเป็น สื่ออาชญากรรม ไม่ใช่ สื่อบันเทิง แล้วคลิปวิดีโอที่ปรากฏเหยื่อไฮเทคเหล่านี้จะต้องถูกส่งต่อไปอีกกี่ล้านครั้ง

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รูปโป๊...กับครอบครัว

คลิปหลุด รูปโป๊หลุดของเด็กวัยรุ่นไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นตอนต้นหรือวัยรุ่นตอนปลาย สำรวจพบว่าที่มาของภาพเหล่านั้น 1 ใน 3 มาจากเด็ก ๆ ผู้เป็นเจ้าของภาพนั่นเอง

ผลการสำรวจในครั้งนี้เผยว่า เด็กส่วนใหญ่ที่มีมากกว่า 1 ใน 3 นั้นยอมรับว่า พวกเขาอัปโหลดรูปวาบหวิว ลามกอนาจาร เช่น รูปการมีเพศสัมพันธ์ของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่มองว่า การมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่น ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตามนั้น เป็นเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่ง

ทั้งนี้ เด็กๆกลุ่มนี้เล่าว่า พวกเขามักส่งภาพลามก รูปโป๊อนาจารของตัวเองให้คนรัก โดยกว่าครึ่งของวัยรุ่นที่อยู่ในการสำรวจกลุ่มนี้ทราบดีว่า รูปที่พวกเขาส่งไปนั้น คนรักหรือคนอื่นก็มักส่งรูปนั้นต่อ

การสำรวจในครั้งนี้ เป็นผลสำรวจของมหาวิทยาลัยพรีมัท เมืองเดวอน และศูนย์การศึกษา เซาท์ เวสท์ กริด ซึ่งพบว่า มีวัยรุ่นถึง 40 เปอร์เซ็นต์มองว่า การส่งรูปลามกอนาจารของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด หนำซ้ำยังคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถทำได้ ขณะที่มีเพียง 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่คิดว่า ภาพเหล่านั้นจะส่งผลเสียแก่ตัวเอง

ทั้งนี้ผลการสำรวจในครั้งนี้ได้เผยแพร่ในโรงเรียนเพื่อให้เด็กนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้เรียนรู้และตระหนักมากขึ้น ซึ่งคณะครูมองว่า เด็กสมัยนี้รักตัวเองน้อยลง อันนำมาซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว

ทางด้าน ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า อยากเตือนเด็ก ๆ ที่ยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทุกคนว่า อย่าคิดแต่เพียงทำไปเพราะความรักสนุก โดยที่ไม่ได้มองถึงผลเสียที่จะตามมาเลย

"อยากบอกพวกเด็ก ๆ ว่า การที่พวกเขาส่งรูปโป๊หรือคลิปต่าง ๆ ไปให้คนอื่น ประการแรกก็คือเป็นสิ่งที่น่าอับอาย ขายหน้าไปถึงพ่อแม่ อีกประการหนึ่งคือ เด็ก ๆ ที่ส่งรูปโป้เหล่านี้ของตนเองอาจกลายเป็นเหยื่อหรือถูกลั่นแกล้งจากเพศตรงข้าม โดยเฉพาะผู้ที่ชอบร่วมเพศกับเด็ก"

ดร.แอนดี้ ฟิบเพน นักวิจัยเผยว่า ปัญหาสำคัญที่สุดของกรณีนี้คือ เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างความรักและความใคร่ พวกเขาไม่ได้มองเรื่องความปลอดภัยในการร่วมเพศ และไม่ได้ตระหนักถึงความรักตัวเองโดยการสงวนตัว ซึ่งพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในครอบครัวอาจไม่เคยทราบพฤติกรรมเหล่านี้ของลูกเลยก็ว่าได้