วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ปคม.จับเจ้าของเว็บไซต์"thaioffline" ปล่อยสมาชิกโหลดคลิปโป๊

ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 ธันวาคม พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผกก.3 บก.ปคม.พร้อมกำลัง นำหมายค้นศาลอาญา ที่ 586/2552 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2552 เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 23/23 (1/387) หมู่ 7 ซอยโชคชัย 4 แยก 24 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.หลังสืบทราบว่าถูกใช้เป็นสถานที่เผยแพร่คลิปโป๊คลิปลามกอนาจารกรณีนักเรียนสาวถูกเพื่อนชายกระทำชำเราในชุดเนตรนารี โดยเจ้าหน้าที่พบตัวนายอนุสิษฎ์ หรือปลา ประมงวัฒนา อายุ 30 ปี พนักงานส่วนงานคอมพิวเตอร์ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1414/2552 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 ข้อหาโดยประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้าเพื่อการแจกจ่ายหรือแสดงอวดแก่ประชาชน ทำให้แพร่หลายด้วยประการใด ๆ ซึ่งสิ่งอันลามกและจงใจสนับสนุน ยินยอม ให้มีการเผยแพร่สิ่งอันลามก ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวไว้พร้อมกับให้นำเข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก

จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบเครื่องเซิร์ฟเวอร์ 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ แผ่นซีดี 9 แผ่น กล่องบรรจุซีดี เอกสารค่าบริการอินเตอร์เน็ต จึงตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ปคม.

สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดัง ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปี ได้เปิดเว็บไซต์เปิดรับสมาชิกโดยให้สมัครเข้าใช้บริการได้ฟรีซึ่งสมาชิกสามารถลิงค์ไปยังฟอรั่มต่าง ๆ เพื่อโหลดภาพลามกและคลิปโป๊ลามกอนาจารต่างๆ ได้ไม่อั้น ที่ผ่านมาก็ไม่เคยคัดกรองผู้เข้ามาใช้บริการส่วนคลิปโป๊คลิปวีดีโอและรูปภาพต่างๆ มีทั้งที่เป็นของสมาชิกนำมาแลกเปลี่ยนกัน ส่วนคลิปวีดีโอภาพนักเรียนสาวในชุดเนตรนารีที่ตกเป็นข่าวดังก็ได้รับมานานแล้ว

ขณะที่ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดกรณีการเผยแพร่คลิปโป๊นักเรียนสาวดังกล่าวทางชุดสืบสวน กก.3 บก.ปคม.ได้ประสานเจ้าหน้าที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที.) สืบสวนติดตามผู้กระทำความผิดซึ่งเปิดเว็บไซด์ต่างๆ แล้วปล่อยให้มีการเผยแพร่คลิปนี้ โดยที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำผิดและปิดเว็บไซด์ไปแล้วหลายแห่ง สำหรับเว็บไซต์ของผู้ต้องหานอกจากจะนำคลิปของผู้เสียหายมาเผยแพร่แล้วยังพบว่ามีการนำภาพดาราและบุคคลที่มีชื่อเสียงมาตัดต่อกับภาพเปลือยนำออกเผยแพร่อีกด้วย ซึ่งชุดสืบสวนได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์มานานและเคยแจ้งเตือนไปแล้วแต่ทางเว็บมาสเตอร์หรือผู้ดูแลเว็บไซด์ก็ยังละเลยไม่ปฏิบัติตามจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับและเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป